ปัญหาผมบาง สาเหตุของปัญหาหัวล้าน หมดความมั่นใจ แต่ยิ่งอายุมากขึ้น ก็ยิ่งต้องเจอปัญหาผมร่วม ผมบาง ผมไม่หนาเหมือนเก่า เพราะรากผมไม่แข็งแรงเท่าเดิม ในปัจจุบันจึงมีการรักษาที่เรียกว่า ‘การปลูกผม’ ขึ้นมา เพื่อคืนความงามของเส้นผม แก้ปัญหาผมร่วม ผมบาง ได้อย่างตรงจุด
ซื้อคอร์สปลูกผมเทคนิคไหนดีไม่ให้เสียเงินเปล่า ?
สำหรับคนที่มีปัญหาผมบาง เบากังวลใจได้เลย เพราะในปัจจุบันมีคอร์สปลูกผมด้วยเทคนิคหลายแบบ หลายราคา ที่คุณสามารถเลือกปลูกผมได้ตามสะดวก ซึ่งโดยหลักๆ แล้วมีคอร์สปลูกผมมีอยู่ 4 คอร์ส ดังนี้
1. คอร์สปลูกผมด้วยเทคนิค Long Hair FUE
ไม่ต้องโกนศีรษะ ไม่ต้องตัดผมสั้น ก็ปลูกผมได้ด้วยเทคนิค Long Hair FUE ซึ่งเป็นการใช้เครื่องมือหัวเจาะขนาดเล็กพิเศษมาเจาะเพื่อดึงรากผมออกมาปลูก ข้อดีของเทคนิคนี้คือสามารถเห็นผมที่ปลูกใหม่ได้ทันที ไม่ทิ้งรอยเย็บ รอยแผล ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน แผลแห้งเร็ว รอเวลาไม่นานจะได้เห็นผมหนาขึ้นเร็วทันใจ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผมบาง หรือผู้ที่ต้องการปลูกผมบริเวณไรผม แบบไม่ต้องตัดผมสั้น
ข้อดีของคอร์ส Long Hair FUE
- ไม่ต้องตัดผมสั้น หรือโกนศีรษะให้หมดความมั่นใจ
- เห็นผมปลูกใหม่ได้ทันที ใช้เวลาไม่นานผมจะเริ่มหนาขึ้น
- แผลแห้งเร็ว ใช้เวลาไม่นาน
2. คอร์สปลูกผมด้วยเทคนิค FUE (Follicular Unit Extraction)
ใครที่อยากปลูกผมถาวร แล้วได้เส้นผมจริงที่ดูเป็นธรรมชาติ แนะนำให้ทำคอร์สเทคนิค FUE ที่ให้ผลลัพธ์ได้สูงถึง 90% ขึ้นไป การปลูกผมแบบ FUE เป็นการย้ายเซลล์ผลตรงส่วนท้ายทอยมาปลูกใหม่ในบริเวณที่มีปัญหา เนื่องจากผมบริเวณท้ายทอยมีความแข็งแรงมากที่สุด โดยใช้หัวเจาะอัตโนมัติที่มีความแม่นยำและรวดเร็ว ข้อดีคือทำแล้วกลับบ้านได้ทันที หลังพักฟื้นจะไม่มีรอยแผลเย็บ เหมาะกับคนที่ผมบาง หัวล้าน หัวเถิก ผมเว้าเป็นรูปตัวเอ็ม
ข้อดีของคอร์ส FUE (Follicular Unit Extraction)
- แผลหลังการปลูกผมเล็ก หายเร็ว แทบมองไม่เห็นรอยแผลเป็น
- หากผมที่หนังศีรษะไม่พอ สามารถเก็บกราฟผมจากจนส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้ เช่น ขนเครา ขนหน้าอก เป็นต้น
- ใช้เวลาพักฟื้นน้อย เนื่องจากแผลมีขนาดเล็ก แทบไม่มีผลต่อการใช้ชีวิต
3. คอร์สปลูกผมด้วยเทคนิค Direct Hair Implantation (DHI)
เป็นการปลูกผมที่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผมบาง หัวล้านมาก รักษาโดยใช้เครื่องมือที่ชื่อว่า DHI Implanter เป็นเครื่องมือเฉพาะทาง หัวเจาะมีขนาดเล็กพิเศษ สามารถปักและปลูกถ่ายผมได้ในครั้งเดียว จึงได้ผลการรักษาที่เส้นผมมีความถี่ แน่น และละเอียดมาก ที่สำคัญมีความเป็นธรรมชาติ เพราะแพทย์สามารถควบคุมความลึกของการปลูกถ่ายได้อย่างละเอียด ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผลเป็น เช่นเดียวกับสองเทคนิคด้านบน
ข้อดีของคอร์ส Direct Hair Implantation (DHI)
- ได้ผมขึ้นใหม่ที่ถี่ แน่น งายละเอียดมาก
- มีความเป็นธรรมชาติสูง ปลูกถ่ายได้ในครั้งเดียว
- ไม่ทิ้งรอยแผลเป์น
4. คอร์สปลูกผมด้วยเทคนิค FUT (Follicular Unit Transplant)
การปลูกผมด้วยเทคนิค FUT หรือปลูกผมแบบแผลตัดเย็บ Strip FUT (Follicular Unit Transplant) เป็นวิธีย้ายเซลล์รากผมที่ใช้กันมาเกือบ 30 ปี และยังคงใช้อยู่ถึงปัจจุบัน สามารถรักษาอาการหัวล้านรุนแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง เมื่อก่อนแพทย์จะปลูกผมทีละกระจุก ผลจึงออกมาแบบไม่เป็นธรรมชาติ แต่ในปัจจุบันพัฒนามาปลูกทีละกราฟ จึงทำให้ผมขึ้นใหม่ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าเดิม
ข้อดีองคอร์ส FUT (Follicular Unit Transplant)
- กราฟผมคุณภาพดี เพราะขั้นตอนแยกกราฟยังเหลือเนื้อเยื่อและไขมันไว้โดยรอบ
- สามารถเก็บกราฟผมได้เยอะ แต่ผมไม่บางลง
- ราคาถูกกว่าคอร์สอื่นๆ
- ใช้เวลาผ่าตัดในการปลูกผมสั้นกว่า
สำหรับใครที่อยากปลูกผมให้ขึ้นจริงๆ จะได้ไม่สูญเงินเปล่า แนะนำให้พบแพทย์เพื่อประเมินเคสในเบื้องต้น ซึ่งแพทย์ที่ดูแลจะช่วยประเมินว่าแต่ละเคสควรปลูกผมด้วยคอร์สใดถึงจะเห็นผลมากที่สุด เน้นความเหมาะกับสภาพปัญหา และงบประมาณในกระเป๋า
จบทุกความไม่มั่นใจของปัญหาผมบาง อย่าปล่อยให้ปัญหานี้ทำให้คุณไม่สนุกกับการใช้ชีวิต รักษาผมบางด้วยวิธีปลูกผมได้ง่ายๆ ตั้งแต่วันนี้ โดยไม่ต้องจ่ายเงินสด เพียงจ่ายผ่านบัตรเครดิตที่สามารถผ่อนชำระได้อย่างสะดวกสบาย สามาถเปรียบเทียบบัตรเครดิตที่เหมาะสมกับคุณได้แล้ววันนี้ กับแรบบิท แคร์ แหล่งรวมบัตรเครดิตดีๆ จากหลากหลายสถาบันทางการเงิน